รีวิว 10 อันดับ ยาทาเชื้อราที่เล็บ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023
เชื้อราที่เล็บ ช่วงนี้หลายๆคนคงเป็นกันบ่อย โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบทำเล็บ ต่อเล็บ เพราะการต่อเล็บหรือทำเล็บเจลทิ้งไว้นานๆ ถ้ามีช่องว่างเกิดขึ้น อาจจะทำให้มีน้ำเข้าไปขัง และทำให้ เล็บเป็นเชื้อรา เกิดเป็นเชื้อราเขียวๆ ใต้เล็บได้ง่ายมาก มักจะเกิดได้กับทั้งเล็บมือและเล็บเท้าเลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นที่เล็บเท้ามากกว่า ด้วยความอบอุ่นและความชื้นจากาการใส่รองเท้าที่เป็นปัจจัยทำให้เชื้อราก่อตัวขึ้น รวมถึงบริเวณนิ้วเท้ามีการหมุนเวียนของเลือดน้อยกว่านิ้วมือ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกำจัดเชื้อโรคได้ยาก แถมยังรักษายากและใช้เวลานาน ใครที่เริ่มเป็นเชื้อราแล้วต้องรีบรักษานะคะ อย่าปล่อยไว้เด็ดขาด
ซึ่งการรักษาโรคเชื้อราที่เล็บทำได้หลายวิธี เช่น การใช้ ยาทาเชื้อราที่เล็บ, ยาต้านเชื้อรา, การรักษาด้วยแสงเลเซอร์, การรักษาด้วยสารไวแสงซึ่งต้องใช้ร่วมกับแหล่งกำเนิดแสง (photodynamic therapy), การถอดแผ่นเล็บออกโดยการผ่าตัดหรือหรือใช้สารเคมี ซึ่งใช้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะมาก ดังนั้นเราควรจะต้องรีบรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่งั้นจะยิ่งลุกลามและรักษายากนะคะ
- 1. LANBENA Nail Repair Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 15 มล.
- 2. RtopR Ginger Antibacterial Nail Essential Oil ยาทาเชื้อราที่เล็บ 10 มล.
- 3. OEDO Ginseng Nail Treatment Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 10 มล.
- 4. ELAIMEI Nail Treatment Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 15 กรัม
- 5. LANTHOME Fungal Nail Renewal ยาทาเชื้อราที่เล็บ 10 มล.
- 6. YOUNGCOME Nail Repair ยาทาเชื้อราที่เล็บ 50 มล.
- 7. Hellohealings Nail Repair Essence Serum ยาทาเชื้อราที่เล็บ 3 มล.
- 8. VIBRANT GLAMOUR ยาทาเชื้อราที่เล็บ 20 กรัม
- 9. AuQuest Nail Repair Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 20 มล.
- 10. Natcha Ultra U ครีมอัลตร้ายู 30 กรัม
LANBENA Nail Repair Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 15 มล.
- ตัวเนื้อยาเป็นแบบเซรั่ม ซึมไวระเหยเร็ว ไม่เหนอะหนะ
- มีกลิ่นคล้ายแอลกอฮอล์
- มีส่วนผสมของธรรมชาติ ที่มีส่วนช่วยยับยังการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
- ช่วยรักษาเชื้อราและบำรุงเล็บไปในตัว กระตุ้นการเจริญเติบโตของเล็บให้ยาวได้เร็วยิ่งขึ้นและแข็งแรง
RtopR Ginger Antibacterial Nail Essential Oil ยาทาเชื้อราที่เล็บ 10 มล.
- เนื้อยาเป็นแบบเซรั่ม ซึมซับเข้าสู่เล็บและผิวหนังได้ง่าย
- อุดมไปด้วยสารสกัดจากขิง ที่เหมาะสำหรับการรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อรา รวมถึงปัญหาจากเล็บต่างๆ
- มีกลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุน ทาง่าย
- ช่วยบำรุงและฟื้นฟูเล็บที่ให้แข็งแรงดังเดิม
รีวิว 10 อันดับ ยาทาเชื้อราที่เล็บ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023
วันนี้เราเลยจะมาแนะนำ 10 อันดับ ยาทาเชื้อราที่เล็บ ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023 นี้ และข้อแนะนำในการใช้ยาทาเชื้อราที่เล็บมาฝากอีกด้วยค่ะ
1. LANBENA Nail Repair Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 15 มล.
มาเริ่มที่ยาตัวแรกกับ “LANBENA Nail Repair Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 15 มล.” ยาทาเชื้อราที่เล็บตัวนี้มีสรรพคุณที่เหมาะสำหรับการดูแลเล็บที่แตกและหยาบกร้าน เล็บที่เกิดการเปลี่ยนสี และเกิดการแยกชั้นของเล็บที่เกิดจากเชื้อรา โดยยาตัวนี้จะเข้าไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของเล็บ ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องของการรักษาเล็บจากเชื้อราแล้ว ยังช่วยบำรุงเล็บของเราให้มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นอีกด้วยค่ะ หลังจากการใช้ยาอาจจะมีการปวดเล็กน้อยซึ่งเป็นกระบวนการต้านเชื้อแบคทีเรียตามปกติ และหลังจากนั้นจะหายปวดไปเองค่ะ แต่สำหรับใครที่ใช้แล้วรู้สึกปวดมาก หรือมีอาการระคายเคืองผิดปกติ ควรหยุดใช้ยาทันที ส่วนสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ ถึงแม้ว่าจะเป็นยาใช้ภายนอก ก็ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้งนะคะ
วิธีใช้ :
ขั้นตอนที่ 1: แช่เล็บให้อ่อนนุ่มด้วยน้ำอุ่น
ขั้นตอนที่ 2: ใช้ตะไบ ตะไบเล็บเพื่อซ่อมแซมร่องบนพื้นผิวเล็บและกำจัดสิ่งสกปรก
ขั้นตอนที่ 3: ใช้เซรั่ม 3-4 หยด ทาบนส่วนของเล็บที่ติดเชื้อ
ขั้นตอนที่ 4: ใช้วันละสองครั้งในตอนเช้าและตอนเย็นตามลำดับ หลังจากการใช้งานทุกๆ 2-3 วัน ให้ขัดผิวเล็บ แล้วใช้งานต่อไปเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
ประเภท : ยาทาเนื้อเซรั่ม
ปริมาณ : 15 มล.
ส่วนประกอบหลัก : กรดซาลิไซลิ, แอลกอฮอล์, น้ำมันละหุ่ง Hydrogenated, กรดอะซิติก, โพลิส, สารสกัด Jewelweed, Stemona japonica, Angelica Dahurica, Pseudolarix, สารสกัด Mugwort, Balsam Stem
จุดเด่น
ตัวเนื้อยาเป็นแบบเซรั่ม ซึมไวระเหยเร็ว ไม่เหนอะหนะ มีกลิ่นคล้ายแอลกอฮอล์ ไม่ค่อยฉุน มีส่วนผสมของธรรมชาติ ที่มีส่วนช่วยยับยังการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ช่วยรักษาเชื้อราและบำรุงเล็บไปในตัว กระตุ้นการเจริญเติบโตของเล็บให้ยาวได้เร็วยิ่งขึ้นและแข็งแรง
จุดควรพิจารณา
สำหรับคนที่เล็บหนาหรือหยาบ ให้ทำความสะอาดก่อนใช้ หยุดใช้ทันทีหากเกิดอาการแพ้ เด็กและสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา อาจมีอาการปวดเล็กน้อยระหว่างการใช้งาน ซึ่งเป็นกระบวนการต้านเชื้อแบคทีเรียตามปกติ ควรเขย่าขวดก่อนใช้งานทุกครั้ง
2. RtopR Ginger Antibacterial Nail Essential Oil ยาทาเชื้อราที่เล็บ 10 มล.
“RtopR Ginger Antibacterial Nail Essential Oil ยาทาเชื้อราที่เล็บ 10 มล.” ยาทาเชื้อราที่เล็บตัวนี้อุดมไปด้วยสารสกัดจากขิง ที่เหมาะสำหรับการรักษาโรคเชื้อราที่เกิดขึ้นที่เล็บ รวมถึงการเปลี่ยนสีของเล็บ เล็บที่เปราะบางและแตกหักง่าย เนื่องจากตัวยาเป็นแบบ Essential Oil จึงสามารถซึมซับเข้าสู่เล็บได้ง่าย ช่วยให้เล็บดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่ ช่วยซ่อมแซมชั้นที่เสียหาย และฟื้นฟูสภาพเล็บที่เสียหายให้กลับมาแข็งแรงได้ดังเดิม สำหรับผู้ที่เกิดอาการแพ้ยาหรือมีอาการระคายเคืองผิดปกติ ควรหยุดใช้ยาทันที ที่สำคัญควรเก็บตัวยานี้ไว้ที่แห้งและหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงด้วยนะคะ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีของยา
วิธีใช้ :
ขั้นตอนที่ 1: ล้างมือและเท้าก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ และเช็ดมือหรือเท้าให้แห้ง
ขั้นตอนที่ 2: ทาผลิตภัณฑ์โดยตรงกับบริเวณเล็บ และรอให้แห้งหลังจากการใช้แต่ละครั้ง
ขั้นตอนที่ 3: แนะนำให้ทาวันละ 2-3 ครั้ง
ประเภท : ยาทาเนื้อเซรั่ม
ปริมาณ : 10 มล.
ส่วนประกอบหลัก : ZINGIBER OFFICINALE EXTRACT, TOCOPHEROL, SUCROSESTEARATE, GLYCERIN, SORBITOL ASCORBIC ACIDPOLYPEPTIDE SODIUMHYALURATE BUDDLEJAOFFICINALIS LEAF EXTRACT,PROPANEDIOL
จุดเด่น
เนื้อยาเป็นแบบเซรั่ม ซึมซับเข้าสู่เล็บและผิวหนังได้ง่าย อุดมไปด้วยสารสกัดจากขิง ที่เหมาะสำหรับการรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อรา รวมถึงปัญหาจากเล็บต่างๆ มีกลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุน ทาง่าย ช่วยบำรุงและฟื้นฟูเล็บที่ให้แข็งแรงดังเดิม
จุดควรพิจารณา
เมื่อเกิดอาการแพ้ควรหยุดใช้ยาทันที เด็กและสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา ควรเก็บไว้ในที่แห้ง และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ควรใช้ตัวยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
3. OEDO Ginseng Nail Treatment Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 10 มล.
“OEDO Ginseng Nail Treatment Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 10 มล.” ยาทาเชื้อราที่เล็บตัวนี้มีสารสกัดจากโสมอันล้ำค่าซึ่งสามารถให้คุณค่าทางโภชนาการที่มากและหลากหลายแก่เล็บของเรา ที่สำคัญยังช่วยส่งเสริมการทำงานของการซ่อมแซมเล็บ ทำให้เล็บกลับมาแข็งแรง เรียบเนียนและเงางามมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และใช้ตัวยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่ตัวยาจะได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนะคะ แต่สำหรับใครที่ใช้แล้วมีอาการระคายเคืองผิดปกติ ควรหยุดใช้ยาทันที ส่วนสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้งเช่นกันค่ะ
วิธีใช้ :
ขั้นตอนที่ 1: ล้างมือและเท้าก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ และเช็ดมือหรือเท้าให้แห้ง
ขั้นตอนที่ 2: ทาผลิตภัณฑ์โดยตรงกับบริเวณเล็บ และรอให้แห้งหลังจากการใช้แต่ละครั้ง
ขั้นตอนที่ 3: แนะนำให้ทาวันละ 2-3 ครั้ง
ประเภท : ยาทาเนื้อเซรั่ม
ปริมาณ : 10 มล.
ส่วนประกอบหลัก : Aqua, บิวทิลไกลคอล, สารสกัด portulaca oleracea, สารสกัด salvia miltiorrhiza, สารสกัด scrophularia ningpoensis, สารสกัด sophora flavescens, สารสกัด pueraria lobata, สารสกัด phryma leptostachya, สารสกัดจากใบ artemisia annua, hydroxyethylcellulose, rheum officinale น้ำมันลาเวนเดอร์
จุดเด่น
เนื้อยาเป็นแบบเซรั่ม ซึมซับเข้าสู่เล็บและผิวหนังได้ง่าย มีสารสกัดจากโสมที่มีโภชนาการหลากหลาย ช่วยส่งเสริมการทำงานของการซ่อมแซบเล็บ ให้กลับมาแข็งแรง เรียบเนียน และเงางามมากยิ่งขึ้น
จุดควรพิจารณา
เมื่อเกิดอาการแพ้ควรหยุดใช้ยาทันที เด็กและสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา ควรเก็บไว้ในที่แห้ง และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ควรใช้ตัวยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
4. ELAIMEI Nail Treatment Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 15 กรัม
“ELAIMEI Nail Treatment Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 15 กรัม” ยาทาเชื้อราที่เล็บตัวนี้ ผลิตด้วยสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็น ข้าวสาลีไฮโดรไลซ์ สารสกัดจากเปลือกแก้นไม้ สารสกัดจากเมล็ดต้นตังกุย รวมถึงสารต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อซ่อมแซมการติดเชื้อราที่เล็บ รวมถึงรักษาปัญหาเล็บต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเล็บหัก เล็บเสีย เล็บเปราะบางต่างๆ ซึ่งตัวยานี้จะมาปรับสภาพเล็บให้สวยและไม่แตกหักง่ายและช่วยซ่อมแซมชั้นที่เสียหายและเปราะบางให้กลับมาแข็งแรงได้ดังเดิมอีกด้วย ซึ่งเขาบอกเองเลยค่ะว่าเล็บจะกลับมาแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดีใน 2-4 สัปดาห์เท่านั้น และยังยั้บยั้งการเกิดเชื้อราครั้งต่อไปได้อีกด้วยค่ะ สำหรับใครที่ใช้แล้วมีอาการระคายเคืองผิดปกติ ควรหยุดใช้ยาทันที ส่วนสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้งเช่นกันค่ะ
วิธีใช้ :
ขั้นตอนที่ 1. ตัดเล็บที่เสียหรือเน่าออก เพื่อเพิ่มการดูดซึมของเล็บ
ขั้นตอนที่ 2. ทำความสะอาดเล็บด้วยกระดาษทิชชู่หรือคอตตอนบัด
ขั้นตอนที่ 3. ทาครีมบนเล็บบริเวณที่เสียทั้งหมด
ขั้นตอนที่ 4. ทาติดต่อกันทุกวันทั้งเช้าและเย็น ต่อเนื่องอย่างน้อย 4 อาทิตย์
ประเภท : ยาทาเนื้อครีม
ปริมาณ : 15 กรัม
ส่วนประกอบหลัก : สารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุง อาทิเช่น สารสกัดจากโปรตีนข้าวสาลี สารสกัดจากโกฐขี้แมว สารสกัดดังกุย
จุดเด่น
มีสารสกัดจากสมุนไพรหลายชนิด ช่วยซ่อมแซ่มการติดเชื้อราที่เล็บ รวมถึงรักษาปัญหาเล็บที่เปลี่ยนสี เปราะบาง เล็บหัก เป็นต้น ช่วยยับยั้งการเกิดเชื้อราในครั้งต่อๆไปได้ เล็บกลับมาแข็งแรงและสุขภาพดีภายใน 2-4 สัปดาห์
จุดควรพิจารณา
ตัวเนื้อยาเป็นแบบครีม อาจจะเกิดการเหนอะหนะเล็กน้อย ขณะใช้ เมื่อเกิดอาการแพ้ควรหยุดใช้ยาทันที เด็กและสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา ควรเก็บไว้ในที่แห้ง และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ควรใช้ตัวยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
5. LANTHOME Fungal Nail Renewal ยาทาเชื้อราที่เล็บ 10 มล.
“LANTHOME Fungal Nail Renewal ยาทาเชื้อราที่เล็บ 10 มล.” ยาทาเชื้อราที่เล็บตัวนี้ มีสรรพคุณที่ช่วยซ่อมแซมเล็บที่เสียหาย กำจัดเชื้อราที่เล็บ ดูแลเล็บที่แตกและหยาบกร้าน เล็บที่เปลี่ยนสี รักษาเล็บซึ่งถูกโจมตีโดยเชื้อราและช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเล็บ ทำให้เล็บกลับมาแข็งแรงเปล่งปลั่งสดใสได้ดั่งเดิม ซึ่งเห็นผลภายใน 3 วันเท่านั้น ที่สำคัญตัวยาตัวนี้สามารถรักษาโรคเล็บขบได้อีกด้วยนะคะ ใครที่เป็นเล็บขบบ่อยๆ คุณเจอตัวช่วยที่ดีแล้วค่ะ สำหรับใครที่ใช้แล้วมีอาการระคายเคืองผิดปกติ ควรหยุดใช้ยาทันที ส่วนสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้งเช่นกันค่ะ
วิธีใช้ :
ขั้นตอนที่ 1: แช่เล็บให้อ่อนนุ่มด้วยน้ำอุ่น
ขั้นตอนที่ 2: ใช้ตะไบทำเล็บเพื่อซ่อมแซมร่องบนพื้นผิวเล็บและกำจัดสิ่งสกปรก
ขั้นตอนที่ 3: ใช้เซรั่ม 3-4 หยดกับเล็บที่ติดเชื้อ
ขั้นตอนที่ 4: ใช้วันละสองครั้งในตอนเช้าและตอนเย็นตามลำดับ หลังจากการใช้งานทุกๆ 2-3 วัน ให้ขัดผิวเล็บ แล้วใช้งานต่อไป
ประเภท : ยาทาเนื้อเซรั่ม
ปริมาณ : 15 กรัม
ส่วนประกอบหลัก : AGASTACHE RUGOSA , ASTRAGALUS COMPLANATUS , ETHYLHEXYLGLYCERIN
จุดเด่น
เนื้อยาเป็นแบบเซรั่ม ซึมซับเข้าสู่เล็บและผิวหนังได้ง่าย ช่วยซ่อมแซมเล็บที่เสียหาย ที่เกิดจากเชื้อรา รวมถึงปัญหาเล็บต่างๆ ให้กลับมาแข็งแรงดั่งเดิม ซึ่งสามารถเห็นผลต่างได้ภายใน 3 วันเท่านั้น ช่วยรักษาอาการเล็บขบได้
จุดควรพิจารณา
สำหรับคนที่เล็บหนาหรือหยาบ ให้ทำความสะอาดก่อนใช้ หยุดใช้ทันทีหากเกิดอาการแพ้ เด็กและสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา อาจมีอาการปวดเล็กน้อยระหว่างการใช้งาน ซึ่งเป็นกระบวนการต้านเชื้อแบคทีเรียตามปกติ ควรเขย่าขวดก่อนใช้งานทุกครั้ง
6. YOUNGCOME Nail Repair ยาทาเชื้อราที่เล็บ 50 มล.
“YOUNGCOME Nail Repair ยาทาเชื้อราที่เล็บ 50 มล.” ยาทาเชื้อราที่เล็บตัวนี้ มีส่วนผสมของยาสมุนไพรจีน จึงมีความอ่อนโยน และไม่ระคายเคืองต่อผิว ซึ่งสรรพคุณของยาก็จะช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเล็บให้แข็งแรง ฟื้นฟูสุขภาพเล็บที่เปลี่ยนสีหรือเสียหายจากเชื้อราหรือโรคสะเก็ตเงิน ตัวยาจะเข้าไปเจาะเล็บเพื่อช่วยขจัดชั้นที่เสียหายและฟื้นฟูเล็บให้แข็งแรง ที่สำคัญ ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แห้งเร็ว ไม่มีกลิ่น ช่วยให้เล็บชุ่มชื้นขึ้นเงางามมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ สำหรับใครที่ใช้แล้วมีอาการระคายเคืองผิดปกติ ควรหยุดใช้ยาทันที ส่วนสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้งเช่นกันค่ะ
วิธีใช้ :
ขั้นตอนที่ 1: ล้างและเช็ดเล็บให้แห้งก่อนใช้งาน
ขั้นตอนที่ 2: ใช้ตะไบเล็บค่อยๆ ตะไบส่วนที่หนาของเล็บเชื้อรา
ขั้นตอนที่ 3: ใช้สำลีเช็ดของเหลวบางๆ บริเวณที่ได้รับผลกระทบ
ขั้นตอนที่ 4: ปล่อยให้บริเวณนั้นแห้ง จากนั้นทาบางๆ แล้วทำซ้ำ 2 ครั้ง
ขั้นตอนที่ 5: ทำซ้ำขั้นตอนนี้ 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ หรือ จนกว่าการติดเชื้อจะหายไป
ประเภท : ยาทาเนื้อเซรั่ม
ปริมาณ : 50 มล.
ส่วนประกอบหลัก : สารสกัดจากผลไม้ Belvedere, สารสกัดจากราก Sophora flavescens, สารสกัดจากผักชีฝรั่ง, น้ำมันซีเมนส์, น้ำ, น้ำมันละหุ่งที่เติมไฮโดรเจน, กรดอะซิติก, โพลิส, สารสกัดจากอัญมณี, ลิลลี่, แองเจลิกา, สารสกัด Mugwort, ยาหม่อง ฯลฯ
จุดเด่น
เร่งการเจริญเติบโตของเล็บให้แข็งแรง ฟื้นฟูสุขภาพเล็บที่เปลี่ยนสีหรือเสียหายจากเชื้อราที่เล็บหรือโรคสะเก็ดเงิน ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แห้งเร็ว ไม่มีกลิ่น ชุ่มชื้นขึ้นเงาขึ้น ตัวยาจะเข้าไปเจาะเล็บเพื่อช่วยขจัดชั้นที่เสียหายและฟื้นฟูเล็บให้แข็งแรง
จุดควรพิจารณา
หลังจากใช้แล้ว จะรู้สึกว่าหน้าเล็บและจมูกเล็บแห้งขึ้นนิดนึง เมื่อเกิดอาการแพ้ควรหยุดใช้ยาทันที เด็กและสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา ควรเก็บไว้ในที่แห้ง และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ควรใช้ตัวยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
7. Hellohealings Nail Repair Essence Serum ยาทาเชื้อราที่เล็บ 3 มล.
“Hellohealings Nail Repair Essence Serum ยาทาเชื้อราที่เล็บ 3 มล.” ยาทาเชื้อราที่เล็บตัวนี้มีสรรพคุณที่เหมาะสำหรับการดูแลเล็บที่แตกและหยาบกร้าน เล็บที่เปลี่ยนสี รักษาเล็บซึ่งถูกโจมตีโดยเชื้อราและช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเล็บ ช่วยฟื้นฟูเล็บที่เปลี่ยนสีจากเล็บที่เป็นสีเหลืองให้กลับมาขาวได้ภายในหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ที่สำคัญยังช่วยยับยั้งการเกิดเชื้อราครั้งต่อไปได้อีกด้วย แถมยังอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองด้วยค่ะ ซึ่งควรใช้ตัวยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่ตัวยาจะได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนะคะ
วิธีใช้ :
ขั้นตอนที่ 1: แช่เล็บให้อ่อนนุ่มด้วยน้ำอุ่น
ขั้นตอนที่ 2: ใช้ตะไบทำเล็บเพื่อซ่อมแซมร่องบนพื้นผิวเล็บและกำจัดสิ่งสกปรก
ขั้นตอนที่ 3: ใช้เซรั่ม 3-4 หยดกับเล็บที่ติดเชื้อ
ขั้นตอนที่ 4: ใช้วันละสองครั้งในตอนเช้าและตอนเย็นตามลำดับ หลังจากการใช้งานทุกๆ 2-3 วัน ให้ขัดผิวเล็บ แล้วใช้งานต่อไป
ประเภท : ยาทาเนื้อเซรั่ม
ปริมาณ : 3 มล.
ส่วนประกอบหลัก : Deacetylchitin 2% , Collar Hydroxybenzoate (W/W) 3% , Angelica dahuricae
จุดเด่น
เนื้อยาเป็นแบบเซรั่ม ซึมซับเข้าสู่เล็บและผิวหนังได้ง่าย ช่วยฟื้นฟูเล็บที่แตกและหยาบกร้าน เล็บที่เปลี่ยนสี รักษาเล็บที่เกิดเชื้อรา และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเล็บให้กลับมาแข็งแรงดังเดิม อ่อนโยน ไม่ระคายเคือง
จุดควรพิจารณา
สำหรับคนที่เล็บหนาหรือหยาบ ให้ทำความสะอาดก่อนใช้ หยุดใช้ทันทีหากเกิดอาการแพ้ เด็กและสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา อาจมีอาการปวดเล็กน้อยระหว่างการใช้งาน ซึ่งเป็นกระบวนการต้านเชื้อแบคทีเรียตามปกติ ควรเขย่าขวดก่อนใช้งานทุกครั้ง
8. VIBRANT GLAMOUR ยาทาเชื้อราที่เล็บ 20 กรัม
“VIBRANT GLAMOUR ยาทาเชื้อราที่เล็บ 20 กรัม” ยาทาเชื้อราที่เล็บตัวนี้ มีสรรพคุณที่ช่วยกำจัดเชื้อรา และช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเล็บ แถมยังเสริมสร้างและปกป้องเล็บให้กลับมาแข็งแรง เรียบเนียนและเงางามได้ดั่งเดิม ที่สำคัญอ่อนโยนต่อเล็บมากๆ เพราะส่วนผสมของเขาทำมาจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันงู น้ำมันเม็ดพืช ไอโซโพรพิลปาล์มเมท ไฮดรอกซีเอทิลยูเรีย และอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ เวลาใช้แนะนำให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสมกับเล็บและผิวหนังโดยรอบ และนวดไปสักระยะหนึ่งเพื่อช่วยให้ตัวยาดูดซึมได้มากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ใช้แล้วมีอาการระคายเคืองผิดปกติ ควรหยุดใช้ยาทันที ส่วนสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้งเช่นกันค่ะ
วิธีใช้ :
ขั้นตอนที่ 1: แช่เล็บให้อ่อนนุ่มด้วยน้ำอุ่น
ขั้นตอนที่ 2: ใช้ตะไบทำเล็บเพื่อซ่อมแซมร่องบนพื้นผิวเล็บและกำจัดสิ่งสกปรก
ขั้นตอนที่ 3: ใช้เซรั่มทาลงไปที่เล็บหรือบริเวณผิวหนังโดยรอบที่มีเชื้อรา และนวดไปสักระยะหนึ่งเพื่อช่วยให้ตัวยาดูดซึมได้มากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 4: ใช้วันละสองครั้งในตอนเช้าและตอนเย็นตามลำดับ
ประเภท : ยาทาเนื้อเซรั่ม
ปริมาณ : 20 กรัม
ส่วนประกอบหลัก : โคฟีรอล (VE), น้ำมันงู, น้ำมันเมล็ดพืช,ไอโซโพรพิลปาล์มเมท,ไฮดรอกซีเอทิลยูเรีย,กลีเซอรีน,น้ำมันแร่, โซเดียมไฮยาลูโรเนต, กลีเซอรีลสเตียเรต, แซนแทนกัม, อัลลันโทอิน
จุดเด่น
เนื้อยาเป็นแบบเซรั่ม ซึมซับเข้าสู่เล็บและผิวหนังได้ง่าย ส่วนผสมจากธรรมชาติ อ่อนโยนต่อเล็บ และป้องกันเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดควรพิจารณา
เมื่อเกิดอาการแพ้ควรหยุดใช้ยาทันที เด็กและสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา ควรเก็บไว้ในที่แห้ง และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ควรใช้ตัวยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
9. AuQuest Nail Repair Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 20 มล.
“AuQuest Nail Repair Essence ยาทาเชื้อราที่เล็บ 20 มล.” ยาทาเชื้อราที่เล็บตัวนี้ ปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิว เพราะมีส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อราและไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกระคายเคืองหรือรู้สึกเจ็บเมื่อใช้ ที่สำคัญสูตรของเขาผ่านการทดสอบกว่า 200 ครั้ง ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถล้างเชื้อราที่เล็บได้ เห็นผลชัดเจนในไม่กี่สัปดาห์ แถมยังรักษาจุดสีเหลืองหรือจุดดำเล็กๆ บนเล็บอย่างมีประสิทธิภาพ ฟื้นฟูเล็บที่เปราะบางและแตกหักให้กลับสู่สภาวะปกตินอกจากนี้ยังป้องกันความเสียหายและช่วยยับยั้งการติดเชื้อในครั้งต่อๆไปได้ดีด้วยค่ะ สำหรับใครที่ใช้แล้วมีอาการระคายเคืองผิดปกติ ควรหยุดใช้ยาทันที ส่วนสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้งเช่นกันค่ะ
วิธีใช้ :
ขั้นตอนที่ 1: แช่เล็บให้อ่อนนุ่มด้วยน้ำอุ่น
ขั้นตอนที่ 2: ใช้ตะไบทำเล็บเพื่อซ่อมแซมร่องบนพื้นผิวเล็บและกำจัดสิ่งสกปรก
ขั้นตอนที่ 3: ใช้เซรั่ม 3-4 หยดกับเล็บที่ติดเชื้อ
ขั้นตอนที่ 4: ใช้วันละสองครั้งในตอนเช้าและตอนเย็นตามลำดับ หลังจากการใช้งานทุกๆ 2-3 วัน ให้ขัดผิวเล็บ แล้วใช้งานต่อไป
ประเภท : ยาทาเนื้อเซรั่ม
ปริมาณ : 20 มล.
ส่วนประกอบหลัก : Water, Salicy Acid, Alcohol, Hydrogenated Castor Oil, Acetic Acid, Propolis, Jewelweed extract, Stemona Japonica, Angelica Dahurica, Pseudolarix, Mugwort Extract, Garden Balsam Stem, etc
จุดเด่น
เนื้อยาเป็นแบบเซรั่ม ซึมซับเข้าสู่เล็บและผิวหนังได้ง่าย ผ่านการทดสอบกว่า 200 ครั้ง ได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถล้างเชื้อราที่เล็บได้ เห็นผลชัดภายในไม่กี่สัปดาห์ รักษาจุดสีเหลืองหรือจุดดำเล็บๆบนเล็บ ช่วยฟื้นฟูเล็บที่เปราะบางและแตกหักให้กลับสู่สภาวะปกติได้
จุดควรพิจารณา
เมื่อเกิดอาการแพ้ควรหยุดใช้ยาทันที เด็กและสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา ควรเก็บไว้ในที่แห้ง และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ควรใช้ตัวยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
10. Natcha Ultra U ครีมอัลตร้ายู 30 กรัม
มาที่ตัวสุดท้ายกันแล้วค่ะ กับ “Natcha Ultra U ครีมอัลตร้ายู 30 กรัม” ต้องบอกก่อนเลยว่าครีมตัวนี้เสมือนยาแต่ไม่ใช่ยา เพราะมีสรรพคุณที่หลากหลายมากๆ นอกจากจะช่วยกำจัดเชื้อราบนเล็บแล้ว ยังช่วยในเรื่องผิวหนัง สะเก็ดเงิน เชื้อรา กลาก เกลื้อน น้ำกัดเท้า ผด ผื่น คัน รวมถึงคนที่มีผิวแตกแห้งมาก อัลตร้ายูเอาอยู่เลย มีสารสกัดหลักที่เป็นออแกนิค Urea 9% ทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นยาวนาน 72 ชั่วโมง ช่วยให้ผิวที่แข็งหนา กลับมาอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่น ช่วยให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว หลุดลอกออก ปราศจาก แอลกอฮอล์และพาราเบน ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และไม่อุดตันรูขุมขน และตัวนี้ผ่านการรับรองจากแพทย์ผิวหนังเรียบร้อยค่ะสบายใจได้ เรียกได้ว่าใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยค่ะ
วิธีใช้ :
ขั้นตอนที่ 1: ล้างและเช็ดเล็บให้แห้งก่อนใช้งาน
ขั้นตอนที่ 2: ใช้ตะไบเล็บค่อยๆ ตะไบส่วนที่หนาของเล็บเชื้อรา
ขั้นตอนที่ 4: จากนั้นทาบริเวณเล็บที่เกิดเชื้อรา โดยค่อยๆนวดเพื่อให้
ขั้นตอนที่ 5: ควรใช้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง จนกว่าการติดเชื้อจะหายไป
ประเภท : ยาทาเนื้อครีม
ปริมาณ : 30 กรัม
ส่วนประกอบหลัก : สารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ ยูเรีย 9% , น้ำมันอาร์แกน , ดอกคาโมมายล์ , น้ำมันมะพร้าว , เชียร์บัตเตอร์ เนื้อเนย , ชะเอมเทศ , ว่านหางจระเข้
จุดเด่น
มีสรรพคุณที่หลากหลาย มีสารสกัดหลักที่เป็นออแกนิค Urea 9% ทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นยาวนาน 72 ชั่วโมง ปราศจาก แอลกอฮอล์และพาราเบน ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และไม่อุดตันรูขุมขน ผ่านการรับรองจากแพทย์ผิวหนังว่าปลอดภัย สามารถใช้ได้
จุดควรพิจารณา
ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ หลีกเลี่ยงการใช้บริเวณผิวหนังที่มีบาดแผลหรือมีการระคายเคือง หากใช้แล้วมีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น ต้องหยุดใช้และปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อประสิทธิภาพที่ดี เก็บผลิตภัณฑ์ให้ห่างจากแสงแดดและความร้อนในอุณหภูมิ ไม่เกิน 30 องศา
ยารักษาโรคเชื้อราที่เล็บชนิดรับประทานและชนิดที่ใช้ภายนอกแตกต่างกันอย่างไร ?
ยารักษาโรคเชื้อราที่เล็บชนิดรับประทาน จะเหมาะกับผู้ที่มีอาการปานกลางหรือรุนแรง ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ตัวยาจะมีประสิทธิภาพที่สูง และใช้เวลารักษาสั้นกว่า แต่ก็มีราคาที่สูงกว่า และอาจจะเกิดผลค้างเคียงกับตัวยาอื่นที่กำลังใช้ร่วมอยู่ด้วยค่ะ ส่วนยารักษาโรคเชื้อราที่เล็บชนิดที่ใช้ภายนอก จะเหมาะกับผู้ที่มีอาการน้อยหรือปานกลางและเหมาะสำหรับเด็กมากกว่าผู้ใหญ่นั่นเองค่ะ เพราะมีเล็บที่บางกว่าและอัตราการเกิดเล็บเร็วกว่าผู้ใหญ่ แต่ถ้าเลือกใช้ยาที่ดี และใช้อย่างต่อเนื่องเชื้อราที่เล็บก็จะหายไปได้เช่นกันค่ะ แถมยาบางชนิดยังสามารถยับยั้งการเกิดเชื้อราในครั้งต่อๆไปได้อีกด้วยนะคะ
ปัจจัยเสี่ยงของการเป็นเชื้อราที่เล็บ
– การที่เท้าอับชื้นเป็นเวลานาน
– การเดินลุยน้ำบ่อยๆ
– มีแผลบริเวณรอบเล็บ
– การติดเชื้อราบริวณผิวหนังที่เท้าแล้วไม่ได้รับการรักษา
– ผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยที่ต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน
– การสูบบุหรี่
อาการของโรคเชื้อราที่เล็บ
– เล็บมีสีเปลี่ยนไป เริ่มจากเห็นเป็นจุดสีเหลืองหรือขาวบริเวณปลายเล็บ แล้วขยายใหญ่ขึ้น
– เล็บหนาตัวขึ้น เล็บผิดรูป เปราะหักง่าย
– มีขุยหนาใต้เล็บ มีช่องว่างใต้เล็บหรือเล็บแยกตัวออกจากฐานเล็บ
– กดเจ็บบริเวณที่เป็นเชื้อรา
– ผิวหนังบริเวณเล็บที่ปกติและรอบๆมีอาการอักเสบบวมแดง
เล็บเป็นเชื้อรา แก้ยังไงดี?
การรักษาโรคเชื้อราที่เล็บมีหลายวิธี เช่น
1. การใช้ยารับประทาน มียารักษาเชื้อราโดยการรับประทานหลายชนิด โดยทั่วไปแล้วมีประสิทธิภาพการรักษาสูง สามารถ รักษาความผิดปกติของเล็บที่เป็นโรคได้ทุก ๆ เล็บ รวมถึงเท้า และฝ่าเท้าที่เป็นโรคได้ แต่การใช้ยารับประทานจะได้ผลดีกับโรคโดยเฉพาะที่เกิดจากเชื้อกลากแท้หรือเชื้อยีสต์บางชนิด การใช้ยารับประทานบางชนิดต้องระวังผลข้างเคียงของยาเช่น การแพ้ยา ผลต่อตับและไต ผลของยาอื่นที่กระทบกับการรักษาเช่น การรับประทานยาลดไขมันบางชนิดควบคู่ด้วย หรือการได้ยาลดกรด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดูดซึมของยา เป็นต้น
2. การใช้ยาทาเฉพาะที่ เป็นการรักษาที่มีความปลอดภัย ยาทามีหลายรูปแบบ เช่น ชนิดที่เป็นสารละลาย หรือชนิดที่เป็นยาทาเคลือบเล็บ ซึ่งยาทาบางชนิดสามารถทาที่เล็บสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทำให้มีความสะดวกในการใช้ยา การเลือกรักษาด้วยยาทาเฉพาะที่นั้นจะใช้ได้ดีโดยเฉพาะโรคเชื้อราที่เล็บที่มีจำนวนเล็บไม่มากนัก และไม่มีลักษณะที่ทำให้เกิดการรักษาได้ยาก เช่น มีรอยโรคเชื้อราที่ลามไปถึงโคนเล็บ การรักษาโดยการใช้ยาทาเฉพาะที่ที่เล็บ อาจต้องใช้ยาทาอื่น ๆ ร่วมด้วย หากผู้ป่วยมีรอยโรคร่วมที่เท้า เช่น ที่ฝ่าเท้า ง่ามนิ้วเท้า เพราะยาจะออกฤทธิ์ได้เฉพาะที่เล็บที่ทายาเท่านั้น
3. การใช้วิธีการอื่นๆ ในการรักษา การใช้แสงเลเซอร์รักษาเชื้อราที่เล็บ หรือเครื่องมือทางกายภาพบางชนิดในการรักษา หรือร่วมการรักษาโรคเชื้อราที่เล็บ หรือการใช้ครีมหรือสารเคมีที่ช่วยเสริมการรักษาโรค หลายวิธีแม้ยังเป็นวิธีการใหม่ แต่ก็มีผลการศึกษายืนยันความเป็นไปได้ ให้การรักษาที่ให้ผลดีและปลอดภัย
ยารักษาโรคเชื้อราที่เล็บใช้นานเพียงใด?
โรคเชื้อราที่เล็บรักษาหายได้แต่จะใช้เวลานานหลายเดือนหรืออาจนานเป็นปีจึงควรใช้ยาตามขนาดและระยะเวลาที่กำหนดไว้สำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ กรณีที่เป็นยาชนิดรับประทานใช้นานราว 3-6 เดือน ส่วนยาที่ใช้ภายนอกใช้นานราว 6-12 เดือน ซึ่งขึ้นกับชนิดของยา เล็บมือหรือเล็บเท้าที่เกิดการติดเชื้อและความรุนแรงของโรค ภายหลังการรักษาจนเชื้อราหมดแล้วให้ใช้ยาต่อไปอีก 10 วันหรืออย่างน้อย 1 สัปดาห์ ส่วนสภาพเล็บจะเป็นปกติต่อเมื่อมีเล็บใหม่งอกมาทดแทน
ข้อแนะนำในการใช้ยารักษาโรคเชื้อราที่เล็บ
1. โรคเชื้อราที่เล็บรักษาหายได้แต่ต้องใช้เวลานานเป็นเดือนหรืออาจเป็นปี อีกทั้งยังกลับมาเป็นซ้ำได้ จึงควรให้ความร่วมมือในการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ยาตามขนาดและระยะเวลาที่กำหนดไว้สำหรับยาแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นยาชนิดรับประทานหรือยาที่ใช้ภายนอก
2. ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรหากมีการใช้ยาใดอยู่ก่อน เพราะอาจเกิดปฏิกิริยากับยารักษาโรคเชื้อราชนิดรับประทานหากใช้ร่วมกัน
3. การใช้ยาชนิดที่ใช้ภายนอกมีข้อควรปฏิบัติดังนี้
– ก่อนทายา ควรตัดและตะไบเล็บ พร้อมทั้งทำความสะอาดและเช็ดเล็บให้แห้ง
– การทายาครีมและยาน้ำใสให้ทาทั่วเล็บที่เป็นโรคและผิวหนังที่อยู่ติดกับเล็บ แต่ยาแลกเกอร์ให้ทาเฉพาะที่เล็บ (ไม่ทาผิวหนังที่อยู่ติดกับเล็บ)
– หากทายาวันละ 1 ครั้งควรทาเวลาเดิมทุกวัน และอาจเลือกทาตอนก่อนนอน
– ภายหลังทายาชนิดน้ำใสให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำสบู่เพราะน้ำสบู่อาจชะยาออกไป และภายหลังทายาแลกเกอร์หากต้องสัมผัสน้ำยาประเภทสารอินทรีย์ควรสวมถุงมือ
– อย่าให้ยาสัมผัสตา จมูก ปาก หรือเยื่อเมือกต่าง ๆ ไม่ว่าจะสัมผัสยาโดยตรงหรือสัมผัสยาที่ทาบนเล็บมือ
– ยาอาจมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จึงไม่ควรอยู่ใกล้ความร้อนหรือเปลวไฟ ไม่ว่าจะเป็นขณะที่ทายาหรือการเก็บยา
– ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ก่อนใช้ยาควรศึกษาวิธีใช้จากเอกสารที่เป็นข้อมูลของแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด
4. หากแพ้ยาชนิดใดไม่ให้ใช้ยานั้นอีก กรณีเป็นยาที่ใช้ภายนอกให้รีบเช็ดยาที่ทานั้นออกไป
5. ไม่ว่าจะเป็นยาชนิดรับประทานและชนิดที่ใช้ภายนอก ภายหลังใช้ยาจนรักษาหายแล้ว ควรใช้ต่อไปอีก 10 วันหรืออย่างน้อย 1 สัปดาห์
6. เข้ารับการตรวจร่างกายตามนัดแม้จะได้รับชนิดเดิม เพื่อเฝ้าระวังผลไม่พึงประสงค์ของยาที่อาจเกิดขึ้น
บทส่งท้าย 10 อันดับ ยาทาเชื้อราที่เล็บ ยี่ห้อไหนดี?
จากบทความจะเห็นได้ว่า โรคเชื้อราที่เล็บ ที่เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ถ้าปล่อยไว้นานๆก็อาจจะลุกลามและส่งผลให้อาการหนักได้ เพราะฉะนั้นควรรีบรักษาตั้งแต่เนิ่นๆนะคะ นอกเหนือจากการใช้ ยาทาเชื้อราที่เล็บ แล้ว ควรรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล หมั่นตัดเล็บให้สั้นและตัดอย่างถูกวิธี ดูแลเล็บไม่ให้อับชื้น ใส่รองเท้าที่ระบายอากาศได้ดีและไม่ใช้รองเท้าร่วมกับผู้อื่น รักษาเท้าให้แห้งอยู่เสมอ หากต้องสวมถุงเท้าควรเป็นถุงเท้านุ่มที่ซับความชื้นได้ดี เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดการเกิดเชื้อราที่เล็บได้แล้วค่ะ
